จังหวัดกาญจนบุรี

จังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะทางภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นป่า ซึ่งจะมีทั้งป่าดงดิบและป่าโปร่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร มีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร มีชายแดนติดต่อกับสาธารณรัฐสหภาพพม่าระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ได้แก่ ทิศเหนือ จดจังหวัดตาก และอุทัยธานี ทิศใต้ จดจังหวัดราชบุรี ทิศตะวันออก จดจังหวัดสุพรรณบุรี และนครปฐม ทิศตะวันตก จด สาธารณรัฐสหภาพพม่า

10 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี



1. อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 3 อำเภอ ทั้ง อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำแควใหญ่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ มีสภาพป่าสมบูรณ์เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีสัตว์ป่าชุกชุม และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำพุร้อน ถ้ำ และทะเลสาบ เป็นต้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี

2. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ - เขาช้างเผือก

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติห้วยเขย่ง และป่าเขาช้างเผือก ในอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ราบลุ่มไม่มากนัก ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิยังเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก ทำให้มีสัตว์ป่าแ ละพรรณไม้หายากอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และทัศนียภาพของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน สร้างความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนทุกคน และยังมีน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงาม อาทิ น้ำตกเขาใหญ่, น้ำตกน้ำดิบใหญ่, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และน้ำตกบิเต็ง รวมไปถึงมีเส้นทางเดินป่าขึ้นจุดชมวิวเขาขาดระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยมเพื่อขึ้นมาชมวิวธรรมชาติ สวยสดจากจุดชมวิวเขาขาดแห่งนี้

3. น้ำตกไทรโยคใหญ่-น้ำตกไทรน้อย

น้ำตกไทรโยคใหญ่-น้ำตกไทรน้อย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นน้ำตกที่ไหลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อย มีน้ำตลอดปี และน้ำจะแรงมากในฤดูฝน โดยแบ่งเป็น 2 น้ำตกสำคัญ คือ น้ำตกไทรโยคใหญ่ หรือน้ำตกโจนเป็นจุดเด่นอันดับแรกของอุทยานฯ แห่งนี้ ด้วยลักษณะของน้ำตกที่ไหลลงมาจากตาน้ำในป่าใหญ่อันอุดมสู่แม่น้ำแควน้อย ทำให้ทัศนียภาพที่เห็นงดงาม และน้ำตกไทรโยคน้อย หรือน้ำตกเขาพัง มีขนาดเล็กกว่า แต่ความสวยงามไม่แพ้กันเป็นน้ำตกหินปูน นักท่องเที่ยวนิยมแวะเที่ยวชมก่อนจะเดินทางไปยังอำเภอทองผาภูมิ หรือ อำเภอสังขละบุรี

4. วัดถ้ำเสือ

วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป เราไปกันที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กับวัดสวยขนาดใหญ่ “วัดถ้ำเสือ” ความสวยงามสะดุดตาของวัดนี้ เริ่มกันตั้งแต่ องค์พระพุทธรูปปางประทานพร ขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ขนาดเท่านั้น ความสวยงามขององค์พระที่ประดับตกแต่งด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลเข้ามาชื่นชมความงามไม่ขาด สาย และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัดจะพบกับความวิจิตรของศิลปะแบบไทยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโบสถวัด ทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศ , ลวดลายปูนปั้นพระพุทธประวัติสวยงามทุกด้านของผนังภายในอุโบสถ , พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท เจดีย์ทรงสวย รูปร่างแปลกตา ภายในมีทั้งสิ้น 9 ชั้น ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ หากมองลงมาจากบริเวณด้านบนในช่วงหน้าทำนา จะมองเห็นทุ่งนาข้าวสวยงามสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย

5. สะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะ

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานสายประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เดิมได้รับความเสียหาย และรัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมบำรุงขึ้นใหม่ ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง จนสามารถใช้งานได้ดังเดิม ปัจจุบัน มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แต่เดิมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่เคยมีจริงในประวัติศาสตร์ แต่เนื่องจากทางอเมริกาได้ทำเป็นหนัง ดังนั้นทางจังหวัดจึงมีความเห็นให้ตั้งชื่อสะพานที่ท่ามะขามให้เป็นสะพาน ข้ามแม่น้ำแคว เพื่อให้เหมือนในหนัง และได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาตามหาจริงๆ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่นจนปัจจุบัน

6. สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

สุสานทหารสัมพันธมิตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของจังหวัด กาญจนบุรี ที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี โดยเฉพาะเหล่าประเทศที่อยู่ฝ่ายสัมพันธมิตรที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 คนทั่วไปมักเรียกว่า “ป่าช้าอังกฤษ” เนื่องจากสุสานแห่งนี้บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสาย มรณะถึง 6,982 หลุม ปัจจุบันสุสานแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่างๆ

7. สังขละบุรี

สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ 215 กิโลเมตร โอบล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาอัน เขียวขจี มีแม่น้ำซองกาเลีย ไหลจากต้นกำเนิดในประเทศพม่า สังขละบุรีหล่อเลี้ยงผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำ และเชื่อมสัมพันธ์ ชนชาติมอญ ทั้งสองประเทศ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีความงามหลากหลายทาง เชื้อชาติและวัฒนธรรม พี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า ฯลฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย สะพานมอญ , เมืองบาดาล , วัดวังวิเวการาม ,ชมวิถีชีวิตชาวมอญ ,และเจดีย์พุทธคยา ฯลฯ

8. อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด

“ถ้ำธารลอดใหญ่” จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความสูงประมาณ 50-60 เมตร มีน้ำจากลำห้วยกระพร้อยไหลผ่านตลอดปี บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ นอกจากนี้บริเวณฟากหนึ่งของผนังถ้ำ จะมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค

9. อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ

ไม่น่าแปลกใจที่โฆษณาและละครหลายเรื่อง ต่างเลือกน้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโลเคชั่นถ่ายทำ เพราะความสวยอัศจรรย์ของน้ำตกสีเขียวมรกตใสแจ๋วราวคริสตัล ยืนยันความอุดมสมบูรณ์จากบรรดาปลาพลวงตัวน้อยใหญ่ ที่กำลังเริงร่าในสายน้ำ โดยน้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น ใครที่อยากลงเล่นแบบสะใจ แนะนำให้ไปชั้น 2 (วังมัจฉา) เป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่เดินไม่ไกลนัก แถมยังถูกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในชั้นที่งดงามที่สุด สำหรับผู้กล้าใจถึงอยากพิชิตทั้ง 7 ชั้น อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งแม้จะเหนื่อยแต่รับรองว่าภาพตรงหน้าคุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อ

10. ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ

ตั้งอยู่ภายในกองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บริเวณกิโลเมตรที่ 64–65 บนทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ) ช่องเขาขาดพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ เป็นสถานที่จัดแสดงมินิเธียเตอร์และรวบรวมข้อมูลภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ระหว่างการสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้น พิพิธภัณฑ์นี้จัดไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ภายในบริเวณมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่เชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือปราศจากเครื่องมืออันทันสมัย ให้เป็นช่องสำหรับสร้างทางรถไฟ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของทางรถไฟปรากฏอยู่ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น