วันนี้เรามาต่อกันที่ ทริประนอง 5 วัน 4 คืน นะครับ ... จากหน้าก่อนเราจะเห็นว่าระนองมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะและสวยมาก โดยเฉพาะเกาะพยาม ว่ากันว่าสวยเหมือน มัลดีฟ เลยครับ เกริ่นแค่นี้พอเนาะมาเข้าเรื่องกันเลยครับ เลื่อนตามลงมาเรื่อย ๆ เลยน่ะ
วันที่ 1 ( จันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2559)
ณ เวลา ตี 3.30น. ได้เวลาตื่นนอน และเรียกแท็กซี่โดยผมใช้บริการของ Grab Taxi ครับ สะดวกสบายดีบวกเงินเพิ่ม 25 บาท จากบ้านไปสนามบินดอนเมืองครับ...
ในที่สุดเราก็มาถึงสนามบินดอนเมืองอาคาร 2 เราก็มาต่อแถวรอเช็กอินครับ เรามาก่อนเวลาเยอะเลยครับเครื่องออก 6.10น. ครับ อิอิ ทำไงได้ก็นกแอร์ส่งข้อความมานี่น่าให้มาเช็กอินก่อน 2 ชม. ทำตามระเบียบเขาหน่อย
 |
| Boarding Pass ที่นั้ง 7D ริมทางเดินครับ |
ผมต้องบอกไว้ก่อนนะครับส่วนตัวผมเลยไม่เคยไประนองมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ไปและไปช่วงหน้าฝน T-T (ทำไงได้ตารางงานมางี้) เอ้าออกทะเลไกลละมาต่อกันเลยครับ เมื่อเราเช็กอินเรียบร้อยเราจะได้ Boarding Pass มา เราก็สามารถเข้าข้างในได้เลยครับ ผมได้ Gate 71 โอ้ว ไกลจัง เดินตามป้ายบอกทางไปเลยครับ
มาเช้าเกินไปตอนแรกคิดว่าไม่มีคนพอเดินลงไปข้างล่างเท่านั้นคนเต็มเลย ไม่มีที่นั้งครับ ผมเลยต้องเดินทางขึ้นมานั้งข้างบนเอา รอเวลา ตี 5.50น. ค่อยลงครับ
เมื่อได้เวลาเจ้าหน้าที่นกแอร์เรียกเราก็ลงมารอครับ จะมีรถบัสพาเราไปที่เครื่องบิน เครื่องบินที่จะเดินทางไประนอง เป็นเครื่องบินใบพัดลำเล็ก และที่นั้งข้างละ 2 คนครับ โดยใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณครับ (หลับยาวไปเลยครับ)
ในที่สุดเราก็มาถึงครับ 8.00น. ช้าไป 30 นาที แต่ไม่เป็นไร ลงเครืองปุบเราก็เดินเข้าอาคารเลยครับ รอรับกระเป๋า ใครที่ไม่มีคนมารับ ทางสนามบินระนองมีรถบริการเข้าเมืองด้วยครับ 200 บาท/ท่าน ใช้บริการกันได้ครับ ส่วนผมมีจนท.บริษัท มารับครับนัดเขา 7.30น. รอนานเลย เราไปที่พักกันเถอะครับ
ที่พักนั้นผมเลือก ภูธารา รีสอร์ท ครับ เป็นโรงแรมที่ใหญ่มากครับ และมีสระว่ายน้ำในตัว รวมถึงห้องรับประทานอาหาร สะดวกมาก ๆ เลยครับ ลองเข้าไปดู รีวิวกันได้ครับคลิกด้านล่างเลย
หลักจากเราเอาของเก็บทุกอย่างเสร็จ ณ เวลา 9.30น. ฝนตกทันทีครับ เซ็งเลยว่าจะไปเที่ยวซะหน่อยแย่ ๆ ก็นี่มันหน้าฝนนี่น่า งั้นผมเลยขอตัวพักผ่อนสักงีบเพราะตื่นตั้ง ตี 3.30น. เดี๋ยวไม่มีแรงขับรถด้วยครับ
เมื่อฝนหยุดตกเวลา เที่ยงตรงพอดี เราก็ขับรถออกมาครับ สถานที่แรกที่เราจะไป บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน มีบ่อพ่อ, บ่อแม่ และบ่อลูก ครับ บ่อพ่อจะร้อนที่สุดครับ 65 องศา ข้าง ๆ บ่อพ่อก็จะมีบ่อให้แช่ขาครับ อูณหภูมิประมาณ 40 องศา ตามป้ายครับ น้ำมาจากบ่อพ่อครับเขาต่อท่อมาให้ และก็ที่ใกล้ ๆ จะมีอ่างให้เราแช่ครับอันนี้เสียค่าบริการ และก็มีโดมสาธารณะให้เรานอนพัก เป็นพื้นอุ่น ๆ ครับ เราต้องหาผ้ามาปูก่อนนอนไม่งั้นสุกแน่ ๆ เลย ผมไม่กล้าลงเราเอาขาแตะ ๆ พอครับ ให้ผู้สูงอายุที่มาด้วยลงแช่เอา อิอิ
ฝั่งตรงข้ามบ่อน้ำร้อนจะมี วัดตโปทาราม และ ศาลเจ้าพ่อ - เจ้าแม่ บ่อน้ำร้อน ครับ รวมทั้งร้านอาหาร ร้านขายของครับ
ด้านหลังบ่อน้ำร้อน ก็จะเป็นน้ำตกครับ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่าอะไร ขออภัยครับ เสร็จและเราก็ไปต่อกันเลยครับ สถานีต่อไปจวนเจ้าเมืองระนอง
 |
| รถสองแถว ที่ระนอง |
เอิ่ม ผมอยากบอกว่าผมขับเลยทางเข้าไป จวนเจ้าเมืองครับ เลยมาไกลจนถึง สุสานเจ้าเมืองระนอง เลยครับ ฮ่าาาาา ไหน ๆ ก็มาแล้วเราก็ลงไปเก็บรูปกันเลยครับ
สุสานเจ้าเมืองระนอง มีประวัติความเป็นมาคือ เป็นสุสานของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอ ซู้เจียง) อดีตเจ้าเมืองระนอง ที่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๕ รัชกาลที่ ๕ พระราชทานที่ดินให้เป็นที่ฝังศพที่เขาระฆังทอง เป็นจำนวนเนื้อที่ ๓๗๕ เส้น กับ ๓๐๐ ตารางวา พระรัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) ผู้เป็นบุตรชายได้จัดการฝังศพตามประเพณีจีน และได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ทำคำจารึกลงบนศิลาเกี่ยวกับชาติประวัติ ทั้งภาษาไทยและภาษาจีนปักไว้เป็นเกียรติยศ ณ ที่ฝังศพ ตามธรรมเนียมจีน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น