จังหวัดเลย

จังหวัดเลย เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 520 กิโลเมตร มีสภาพภูมิประเทศที่งดงาม อากาศหนาวเย็น เป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย

ภูมิประเทศ
จังหวัดเลย ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมด 11,424.612 ตารางกิโลเมตร หรือ 7,140,382 ไร่ หรือประมาณร้อยละ 6.77 ของพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัดเลยตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงโคราช หรือที่เรียกกันว่า แอ่งสกลนคร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทิวเขาในแนวทางทิศเหนือใต้ และจะมีพื้นที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขาที่ไม่ใหญ่มากนัก สลับกันอยู่ในแนวเทือกเขา

ภูมิอากาศ
จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่เรียกได้ว่าหนาวที่สุดของประเทศ เคยมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -1.3 องศาเซลเซียส (2 มกราคม พ.ศ. 2517) อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 43.5 องศาเซลเซียส (25 เมษายน พ.ศ. 2517) อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 26.1 องศาเซลเซียส และจะมีอุณหภูมิที่หนาวจัดในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม โดยช่วง 12 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 2.7 องศาเซลเซียส (พ.ศ. 2542) อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 42.5 องศาเซียลเซียส (พ.ศ. 2541)

ท็อป 10 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเลย

วันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดเลยให้นะครับ เผื่อคุณสนใจอยากลองไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ภายใต้ร้มไม้ที่สวยงาม หรือทุ่งหญ้ากว้างใหญ่บนขุ่นเขาริ้วยาวดังภาพวาด หรือจะสงบจิตใจไปกับวัดวาอารามเก่าแก่และเงียบสงบ สัมผัสกับเสียงไก่ขันและวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนในท้องถิ่น ทั้งหมดทั้งมวลนี้หลอมรวมแล้วอยู่ในจังหวัดเดียวในแดนอีสาน รับรองเลยว่าแค่ได้ไปสัมผัส แล้วคุณจะไม่อยากจากไปไหนอีกเลย! กับสถานที่เที่ยวจังหวัดเลย ดินแดนแห่งยอดภูอันเย็นสบายและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

1. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเลยยอดฮิตติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และเป็นอุทยานที่มีผื่นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยพรรณไม้มากมาย โดยส่วนบนของภูจะเป็นป่าสนเหมือนอยู่ในเมืองหนาว ประดับประดาด้วยทุ่งหญ้าสีทองอร่ามในช่วงฤดูแล้ง เป็นภูที่มองเห็นทิวเขาเคล้ากับทะเลหมอกอย่างงดงาม คุณยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดได้ที่นี่ แต่ยังไม่พอ! นอกจากความสวยงามของยอดภูและทิวทัศน์แล้ว ภายในอุทยานยังมีน้ำตกและหน้าผาอีกหลายจุด แต่ทั้งนี้ควรวางแผนท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว – ร้อนเท่านั้น เพราะอุทยานจะปิดทำการในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายนให้ธรรมชาติฟื้นฟูเพื่อรอการกลับมาของนักท่องเที่ยวเช่นคุณอีกครั้ง

2. อุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติที่มีอาณาเขตติดกับประเทศลาว เป็นเทือกเขาที่มีรูปร่างคล้ายเรืออันเป็นที่มาของชื่อ เป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในจังหวัดเลย โดยบนยอดสูงสุดจะเป็นพื้นที่ราบกว้างขวางและเป็นป่าสนเช่นเดียวกับภูกระดึง มองเห็นทิวเขาตัดกับทะเลหมอกสุดสายตา ท้าทายด้วยการพิชิตยอดภูซึ่งมีความสูงถึงเกือบ 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล! คุณอาจหูอื้อเอาง่ายๆ จึงขอแนะนำให้พกหมากฝรั่งไปเคี้ยวแก้อื้อไว้ก่อน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามจับใจบนยอดภูแห่งนี้เลย!

3. ภูลมโล

ยอดภูสวยๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินล่องกล้า รอยต่อกับจังหวัดพิษณุโลก แม้จะเป็นที่ท่องเที่ยวที่ห่างจากตัวเมืองเลยมากที่สุดที่หนึ่ง แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากหลั่งไหลไปชมความงามของภูแห่งนี้กันทุกปี นั่นก็เพราะภูนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นแดนญี่ปุ่นในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นที่อยู่ของต้นพญาเสือโคร่งพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบชื่อดัง ซึ่งในช่วงต้นปีทั้งต้นจะออกดอกสีชมพูสวยเหมือนต้นซากุระ บานสะพรั่งเต็มทั้งภูเขาแบบที่ได้เห็นแล้วต้องนึกว่ากำลังอยู่บนภูเขาสวยๆ ในญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

4. สวนหินผางามคุนหมิง

อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเลยที่สวยตรึงใจ ที่นี่เป็นสวนหินโบราณในเขตอำเภอหนองหิน ได้รับฉายาว่า “คุนหมิงเมืองเลย” เนื่องจากพื้นที่เป็นหินผาสลับซับซ้อนดูน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ในบางช่วงคุณอาจเดินชมสบายๆ กับหินสูงทรงแปลกๆ ข้างทาง และในบางช่วงก็เหมือนอยู่ในเขาวงกต ต้องเบียดตัว ปีนป่าย หรือมุดลอดกลุ่มหินที่เป็นถ้ำ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นตาเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีจุดชมวิวบนที่สูงสำหรับชมป่าหินที่สลับซับซ้อน และยังเป็นสถานที่ที่มีพรรณไม้เก่าแก่อายุหลายร้อยปีงอกงามอยู่ด้วย

5. แก่งคุดคู้

อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเลยที่เกิดจากความแปลกของธรรมชาติ เป็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงซึ่งจะมองเห็นได้เฉพาะช่วงหน้าแล้งเท่านั้น โดยคุณสามารถไปเที่ยวชมแก่งคุดคู้ได้ในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ – พฤษภาคม และสามารถเดินเที่ยวชมแก่งหินและสันทรายที่โผล่พ้นจากแม่น้ำโขงได้ทั่วบริเวณ ทั้งยังสามารถเช่าเรือล่องชมแม่น้ำโขงได้จากบริเวณนี้ ให้คุณสนุกไปกับนั่งเรือชมธรรมชาติไปตามลำน้ำที่แบ่งระหว่างประเทศไทยกับลาว แต่อาจจะต้องอาศัยดวงสักเล็กน้อย เพราะในบางช่วงของบางปีแม่น้ำโขงก็แห้งคอดเสียจนล่องเรือไปไหนไม่ได้เลย

6. พระธาตุสีสองรัก

พระธาตุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยรูปทรงศิลปะแบบล้านช้างตามแบบของวัดวาอารามในแถบลุ่มแม่น้ำโขง มีความสูง 19 เมตร ชื่อพระสีสองรักนั้นมาจากที่มาของการสร้างพระธาตุเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยา และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) โดยหน้าตาของพระธาตุศรีสองรักยังคล้ายคลึงกับพระธาตุหลวงในประเทศลาวอีกด้วย โดยพระธาตุนี้มีกฎว่าห้ามแต่งกายไม่สุภาพ และไม่ให้เด็กขึ้นไปบนพระธาตุตามความเชื่อมาแต่โบราณ

7. พระธาตุสัจจะ

พระธาตุแบบศิลปะล้านช้างขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 33 เมตร ประกอบด้วยฐานกลีบดอกบัวและประดับด้วยเศวตฉัตร 7 ชั้นบนยอดสูงสุดของพระธาตุ โดยพระธาตุสัจจะแห่งนี้มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนมในจังหวัดนครพนม และตั้งอยู่ในวัดลาดปู่ทรงธรรม วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดเลยอันเป็นที่เคารพสักการะของคนในพื้นที่

8. วัดเนรมิตวิปัสสนา

เป็นวัดขนาดใหญ่บนเนินเขาซึ่งโดดเด่นด้วยอุโบสถที่สร้างขึ้นจากศิลาแลงทั้งหลัง ด้านในสวยงามอลังการด้วยเสาค้ำเรียงรายพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบโบสถ์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลอง ด้านนอกยังมีเจดีย์และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่สร้างขึ้นจากศิลาแลงเช่นกัน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากประตูวัดซึ่งเป็นศิลาแลงในรูปแบบศิลปะแบบทาราวดี ตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย

9. สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน(ภูเรือ)

สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน เป็นสวนองุ่นขนาดใหญ่ในพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ ทั้งนี้เพราะพื้นที่ อ.ภูเรือมีภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดปีคล้ายกับทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศษ จึงเหมาะสำหรับปลูกองุ่นพันธุ์ดีจากฝรั่งเศษ ทั้งหงุ่นรับประทานสดและองุ่นใช้ทำไวน์ ซึ่งนำไปผลิตไวน์ชาโต เดอ เลย ไวน์รสชาติเยี่ยมฝีมือคนไทย โดยมีจำหน่ายที่ร้านชาโต เดอ เลย พร้อมกับองุ่นสดและสินค้าการเกษตรนานาชนิด

10. เชียงคาน

หากจะพูดถึงที่เที่ยวขึ้นชื่อที่สุดของเมืองเลย เชียงคานนี่แหละคืออำเภอที่โด่งดังจากภาพยนตร์หลายเรื่อง ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และเงียบสงบ ทั้งยังเป็นอำเภอชายแดนที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงและประเทศลาว มีวัดวาอารามมากมาย และแหล่งพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ที่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวพุทธในแถบลุ่มแม่น้ำโขงตั้งแต่เช้าตรู่ อาหารการกินที่เรียบง่าย และดูมีมนต์เสน่ห์ไปด้วยอาคารบ้านเรือนไม้เก่าแก่อายุนับร้อยปี

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

อุทยานแห่งชาติขนาด 7 หมื่นไร่ที่เต็มไปด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนปลกคุลมด้วยป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามบนความสูงกว่า 1,400 เมตร

ภูทอก

ยอดภูทะเลหมอกในอำเภอเชียงคานซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีความสวยงามที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น จากจุดชมวิวนี้จะสามารถมองเห็นแก่งคุดคู้ และแม่น้ำโขงได้อย่างชัดเจน

น้ำตกวิสุธารา 

น้ำตกขนาดกลางซึ่งมีลดหลั่นกันหลายชั้น บางชั้นมีน้ำขังเป็นแอ่งสามารถลงเล่นน้ำได้โดยไม่มีอันตราย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจ.เลย ที่เหมาะแก่การเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวซึ่งจะมีกระแสน้ำมากและชุ่มฉ่ำ

วัดศรีโพธิ์ชัย

วัดอายุเก่าแก่คู่เมืองเลยมากว่า 400 ปี ภายในอุโบสถนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณด้วยศิลปะเก่าแก่ของแถบลุ่มแม่น้ำโขง และยังมีภาพจิตกรรมที่เขียนขึ้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2395

วัดศรีคุณเมือง

วัดเก่าอีกแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณตามศิลปะล้านช้างหลายชิ้นทั้งจากไทยและลาว โดยโบราณวัตถุที่โดดเด่นที่สุดคือพระพุทธรูปไม้จำหลักปางประทานอภัยแบบล้านช้าง

วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน

สักการะรอยพระพุทธบาทขนาด 120 เซนติเมตรบนฐานหินลับมีด โดยพระบาทนี้เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในเลยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วนานกว่า 80 ปี

วัดท่าแขก

วัดเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตอำเภอเชียงคาน สัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำ และเข้าสักการะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินทรายเก่าแก่ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี

สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรซึ่งตั้งอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือของภูหลวงในอำเภอภูเรือ ที่นี่คุณจะได้พบกับผลไม้และดอกไม้เมืองหนาว รวมทั้งการเกษตรที่ไม่ค่อยได้พบเห็นนักเช่นการปลูกเห็ดหอม หรือต้นคริสต์มาส

ตลาดไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองบง

ตลาดจำหน่ายดอกไม้เมืองหนาว และไม้ประดับซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอภูเรือ นอกจากจะเป็นตลาดค้าขายแล้ว ยังเป็นที่เที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวซึ่งบานสะพรั่งเต็มทั้งพื้นที่

พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนด่านซ้าย

ผีตาโขนนั้นเป็นวัฒนธรรมโบราณของชาวด่านซ้าย และถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของจังหวัดเลย แม้จะไม่ได้อยู่ชมในช่วงเทศกาลก็ยังสามารถเข้าชมผีตาโขนแบบต่างๆ ได้ที่นี่